LPN-บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เปิดขายโครงการพาร์ค 168 นพรัตน์รามอินทรา คอนโดมิเนียมใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Nordic Well-being Philosophy” เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ จัดเต็มพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ 9,000 ตร.ม. ห้องชุดราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
วันที่ 7 กรกฎาคม 2566 นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN
เปิดเผยว่า LPN พร้อมแล้วในการเปิดขายคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ แบรนด์ “พาร์ค 168 นพรัตน์รามอินทรา (PARK 168 NOPPARATRAMINDRA)”
ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 10 ไร่ ประกอบด้วย อาคารพักอาศัย สูง 25 ชั้น จำนวน 3 อาคาร, อาคารจอดรถสูง 8 ชั้น 1 อาคาร และอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น 1 อาคาร
มีห้องชุดรวม 1,224 ยูนิต ในรูปแบบสตูดิโอ และแบบ 1 ห้องนอน เริ่มต้น 25-34.50 ตร.ม. และอาคารพาณิชย์ 4 ยูนิต
ทำเลโครงการ ติดถนนรามอินทรา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู 550 เมตร สามารถเดินทางเชื่อมต่อสู่ถนนสายสำคัญได้หลายเส้นทาง แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ในราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท
ทั้งนี้ ย่านรามอินทรา นับเป็นทำเลศักยภาพทั้งในแง่การลงทุนและการอยู่อาศัย ปัจจุบันแนวโน้มราคาที่ดินมีอัตราเพิ่มขึ้น 25-30% จากเดิม 95,000-100,000 บาท/ตารางวา ขยับเป็น 125,000 บาท/ตารางวา
จุดเด่น ทำเลมีแนวโน้มในการเป็นแหล่งศูนย์กลางของการดูแลรักษาสุขภาพในอนาคต ทำให้การสร้างที่อยู่อาศัยในรูปแบบ Wellness Residence น่าจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยบนทำเลนี้ได้เป็นอย่างดี
รวมถึงผลวิจัยที่สะท้อนจากผู้คนที่อาศัยในประเทศกลุ่ม Nordic ซึ่งติดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก 5 ประเทศ
จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโครงการพาร์ค 168 นพรัตน์รามอินทรา (PARK 168 NOPPARATRAMINDRA) ภายใต้คอนเซ็ปต์การออกแบบ “Nordic Well Being Philosophy”
แนวคิดหลักในการออกแบบสถาปัตยกรรมที่เน้นความเรียบง่าย เพื่อส่งเสริมให้งานภูมิสถาปัตยกรรมภายในโครงการมีความโดดเด่นมากขึ้น
และเลือกใช้เส้นสายที่เป็นแนวเฉียง หรือรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว สะท้อนลูกเล่นของงานสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นในป่าสนในโซนสแกนดิเนเวียน ในลักษณะของบ้านต้นไม้ และทางเดินในป่ามาประยุกต์ใช้ในงานออกแบบ
โดย LPN ร่วมกับบริษัท Redland-Scape จำกัด ผู้คร่ำหวอดในวงการภูมิสถาปัตยกรรม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มาร่วมออกแบบให้กับโครงการ
ซึ่งเน้นการผสมผสานความสวยงามของธรรมชาติกับสถาปัตยกรรมสไตล์นอร์ดิกได้อย่างลงตัว ด้วยลักษณะที่ดินโครงการเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหน้าแคบ ที่มีความยาวของที่ดินมากติดกับถนนรามอินทรา
ทำให้การออกแบบอาคารจึงวางตัวไปตามแนวยาวของพื้นที่ มีจำนวนยูนิตในแต่ละชั้นไม่มาก เพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย
รวมถึงมีระยะห่างระหว่างอาคารมากกว่าโครงการที่เคยพัฒนามา ทำให้สามารถจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางได้ถึง 9,000 ตร.ม.
ขณะที่ส่วนด้านในสุดของโครงการ ออกแบบให้มีสวนขนาดใหญ่เพื่อรองรับการใช้งานของผู้พักอาศัยได้ครอบคลุมหลากหลายกิจกรรม
สำหรับการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางโครงการ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตอย่างลงตัว ทั้ง Lobby ขนาดใหญ่แยกส่วนในแต่ละอาคาร สามารถพาเพื่อนมาทำกิจกรรมได้โดยไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของผู้พักอาศัย
มีพื้นที่กิจกรรมเพื่อสุขภาพ ทั้ง Urban Roof Forest Park, The Spiral Treetop Passage, Observation Circular Tree House, Gathering Leisure Lounge, Outdoor Skate Garden, Cabin Playground
พื้นที่กิจกรรมสำหรับครอบครัว The Gym, Semioutdoor Yoga และ Blue Lagoon Wellness Pool ที่มีความยาวถึง 30 เมตร และอื่น ๆ อีกมากมาย
เพื่อให้เป็นที่พักอาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการในเรื่อง Well-being หรือการมีสุขภาวะกายและใจที่ดี รวมไปถึงสุขภาวะทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
ผสานด้วยเทคโนโลยี อาทิ IOT พร้อม WiFi ฟรี 1 ปีแรก, EV Charger และไร้กังวลกับระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Privacy System เพื่อความสุนทรียภาพแห่งการพักผ่อนและความน่าอยู่อย่างแท้จริง
ส่วนการออกแบบพื้นที่ใช้สอยแต่ละยูนิต เป็นผังที่มีการพัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยออกแบบอย่างเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มีการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล
โดยทุกพื้นที่สามารถเป็นทั้งพื้นที่ทำงาน และสร้างคอนเทนต์ได้อย่างง่ายดาย โดยพื้นที่ภายในห้องชุดจัดวางแปลนให้มีความเปิดโล่ง แต่เป็นสัดส่วนด้วยบานเลื่อนกระจกกั้นห้องนอนขนาดใหญ่
ทำให้แสงสว่างสามารถเข้ามาถึงพื้นที่นั่งพักผ่อนในส่วนหน้าห้อง และแยกพื้นที่ครัวอยู่ในพื้นที่ริมระเบียง ทำให้สามารถทำอาหารได้จริง เหมาะกับสายรักสุขภาพ
ที่มา:https://www.prachachat.net/breaking-news/news-1343158
วันที่ 7/07/2023