แม้ว่าภาพรวมของอสังหาริมทรัพย์ครึ่งปีแรกชะลอตัวจากปัจจัยลบรอบด้าน แต่ผู้ประกอบการรายใหญ่อย่าง “เอพี-แสนสิริ” มองว่ายังมีโอกาสครึ่งปีหลังนำเสนอโครงการใหม่ผุดโครงการใหม่แสนล้านเพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยและผลักดันรายได้ตามเป้า
วิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ครึ่งปีหลังปีนี้เตรียมเปิดตัว 40 โครงการใหม่มูลค่ารวม 55,940 ล้านบาท เป็นทาวน์โฮม 19 โครงการ มูลค่า 19,550 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 14 โครงการ มูลค่า 24,750 ล้านบาท คอนโด 3 โครงการ มูลค่า 8,300 ล้านบาท และต่างจังหวัด 4 โครงการ มูลค่า 3,340 ล้านบาท ส่งผลให้ครึ่งปีหลังเอพีจะมีโครงการพร้อมขายทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดมากกว่า 179 โครงการ มูลค่ากว่า 143,367 ล้านบาท
เอพี เคลื่อนธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ “DIVE DEEPER IN PROPERTY BUSINESS” ทำงานแบบเจาะลึกเพื่อครองความเป็นผู้นำในธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ เพื่อการอยู่อาศัยผ่าน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจพัฒนาคอนโด กลุ่มธุรกิจพัฒนาบ้านเดี่ยว และกลุ่มธุรกิจพัฒนาทาวน์โฮม
ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาสินค้ากลุ่มแนวราบอย่างทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวเป็นกุญแจขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโตของรายได้และกำไร รายได้ที่เกิดจากสินค้าแนวราบคิดเป็นมูลค่า 17,358 ล้านบาท หรือ 73% ของรายได้รวมที่มีแบรนด์ THE CITY, CENTRO และบ้านกลางเมืองเป็นหัวหอก
ขณะที่กลุ่มคอนโดภาพรวมธุรกิจเริ่มมีแนวโน้มเป็นบวก สังเกตได้จากสัญญาณการโอนกรรมสิทธิ์เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยบริษัทรับรู้รายได้จาก ASPIRE รัตนาธิเบศร์ เวสต์ตัน, ASPIRE เอราวัณ ไพร์ม และคอนโดร่วมทุนอย่าง RHYTHM เจริญกรุง พาวิลเลี่ยน ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องในไตรมาสที่ผ่านมา มียอดขายรวมกว่า 46,819 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกมีรายได้รวมจากสินค้าแนวราบกลุ่มคอนโด (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ สูง 23,856 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,023 ล้านบาท ไตรมาส 2 สร้างรายได้รวมจากสินค้าแนวราบกลุ่มคอนโด (100% JV) และธุรกิจอื่นๆ 12,051 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 11,805 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,544 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิรวม 1,478 ล้านบาท ราว 4.5%
อุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า ครึ่งปีหลัง แสนสิริมีแผนเปิดตัว 39 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 56,700 ล้านบาท เป็นแนวราบ 23 โครงการ มูลค่ารวม 35,900 ล้านบาท ไฮไลท์ด้วยการเปิดตัวบ้านเดี่ยวแบรนด์ “เศรษฐสิริ” 10 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 21,900 ล้านบาท ครอบคลุมทุกทำเล และแผนเปิดตัวคอนโดอีก 16 โครงการ มูลค่ารวม 20,800 ล้านบาท ไฮไลท์ด้วยการเปิดตัวคอนโดลักชัวรีในทำเลศักยภาพ “ราชเทวี” และ “อารีย์” เพื่อผลักดันยอดขายและยอดรับรู้รายได้ในอนาคต
สำหรับช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา มียอดขายรวม 27,000 ล้านบาท หรือเกือบ 50% จากเป้าหมายยอดขาย 55,000 ล้านบาท ซึ่งปิดการขายไป 10 โครงการ มูลค่ารวม 20,200 ล้านบาท ประกอบด้วย แนวราบ 7 โครงการ ได้แก่ เศรษฐสิริ ทวีวัฒนา, เศรษฐสิริ พหล-วัชรพล, เศรษฐสิริ พระราม 5, อณาสิริ กรุงเทพ-ปทุมธานี, อณาสิริ รังสิต-คลอง 2, คณาสิริ ศาลายา-ปิ่นเกล้า, สิริเพลส ราชพฤกษ์-พระราม 5 และ คอนโด 3 โครงการ ได้แก่ ดีคอนโด ไฮด์อเวย์ รังสิต, ดีคอนโด ไฮป์ รังสิต ล่าสุดปิดการขายคอนโด เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค ทำเลห้าแยกลาดพร้าว
ส่วนยอดโอนกรรมสิทธิ์ 7 เดือนของโครงการที่อยู่อาศัยทุกประเภทที่สร้างเสร็จมูลค่า 19,000 ล้านบาท หรือ 46% จากเป้าหมายยอดโอน 41,000 ล้านบาท โดยครึ่งปีหลังเตรียมโอนอีก 3 โครงการแนวสูง แนวราบ มูลค่ารวม 3,100 ล้านบาท ได้แก่ เฮย์ หัวหิน ซึ่งเป็น Affordable คอนโดพร้อมอยู่และ เนีย บาย แสนสิริ คอนโดจากซีรี่ย์ One of a Kind Project ราคาเริ่มต้น 2.59 ล้านบาท
รวมทั้งโครงการแนวราบระดับลักชัวรีและซูเปอร์ลักชัวรี เตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยวพร้อมโอน “บูก้าน พัฒนาการ” จำนวน 17 ยูนิต ราคา 65-115 ล้านบาท รองรับการรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ปัจจุบันบริษัทมีรายได้ในมือ (Secured Revenue) 29,700 ล้านบาท หรือกว่า 70% จากเป้าหมายรายได้การขาย 41,000 ล้านบาทในปีนี้
ที่มา:https://www.bangkokbiznews.com/property/1082532
วันที่ 9/08/2023