Compared to the real estate form of '65, recovering quickly? Huge giants! Push the market positively.

เทียบฟอร์มอสังหาฯปี65ฟื้นเร็ว? ยักษ์ใหญ่โตสนั่น!ดันตลาดบวก

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ประเมินทิศทางอสังหาริมทรัพย์ปีกระต่าย ส่งสัญญาณฟื้นตัวเร็วหรือไม่? หลังรายใหญ่โชว์ฟอร์มผลประกอบการ ปี 2565 เติบโตสูง ดันตลาดบวก!

อนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า แม้ปี 2565 จะเป็นปีที่มีความท้าทายของการดำเนินธุรกิจภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน แต่ “Top 5” ของอสังหาฯ ที่ทำกำไรได้สูงสุด ก็สามารถทำกำไรรวมได้เกือบ 30,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้าถึง 28.3%

โดยแชมป์กำไรสูงสุด คือ “แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์” บริษัทที่มีการเติบโตของกำไรสูงสุด คือ “แสนสิริ” แชมป์รายได้สูงสุดและการเติบโตของรายได้สูงสุด คือ “เอพี ไทยเลนด์” และบริษัทที่มีการจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงสุด คือ “แสนสิริ”

“ปี 2565 นับเป็นปีแรกที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทยอย่างชัดเจน หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจัยสำคัญมาจากการได้รับวัคซีน การเปิดรับนักท่องเที่ยว ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาดำเนินการได้อย่างเต็มที่”

ในปี 2566 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวเต็มที่! ทำให้มีทั้งโอกาสทางธุรกิจ อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าติดตามและเตรียมรับมือในอีกหลายประเด็น ทั้งทิศทางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ที่จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย แนวโน้มราคาพลังงานและราคาโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น กดดันให้ต้นทุนและอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

พลัส พร็อพเพอร์ตี้ รวบรวมผลประกอบการปี 2565 ของยักษ์อสังหาฯ เปรียบเทียบตัวเลขกำไร รายได้ และอัตราการเติบโตมากน้อยแค่ไหน สิ่งเหล่านี้ส่งสัญญาณต่อตลาดอสังหาฯ ปีกระต่ายนี้อย่างไร ต้องติดตาม

แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) กลับมาครองแชมป์บริษัทที่ทำกำไรสูงสุดอีกครั้ง ด้วยกำไรสุทธิ 8,313 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 19.8% มีรายได้ 36,732 ล้านบาท อยู่ในอันดับ 2 ของอุตสาหกรรม และเติบโตจากปีที่ผ่านมา 9.6% จ่ายเงินปันผลประจำปีให้ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.60 บาท ปีนี้มีแผนเปิดตัว 17 โครงการใหม่ มูลค่า 35,000 ล้านบาท

แสนสิริ (SIRI) เป็นประวัติการณ์รอบ 38 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 12.2% ของรายได้รวม โตจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรสุทธิ 6.8% โดยไฮไลต์กำไรไตรมาส 4/2565 ไตรมาสเดียวทะลัก 1,791 ล้านบาท เติบโต 422% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทน (Dividend yield) 8% สูงสุดในกลุ่มธุรกิจอสังหาฯ ขณะนี้ ขณะที่ยอดขายปี 2565 ทะลุ 50,000 ล้านบาท เติบโตเกือบ 50% กวาดรายได้รวม 34,983 ล้านบาท เติบโต 18% เป็นผลจากการขายโครงการโดดเด่นทุกกลุ่มที่อยู่อาศัย ปีนี้มีแผนเปิดตัว 52 โครงการใหม่ มูลค่า 75,000 ล้านบาท

เอพี ไทยแลนด์ กำไรสุทธิ 5,877 ล้านบาท รายได้รวม 38,706 ล้านบาท อัตราตอบแทนจ่ายปันผล 5.2% ในปีที่ผ่านมาสร้างรายได้สูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรม โดยรายได้รวมจากสินค้าแนวราบ กลุ่มคอนโดมิเนียม และธุรกิจอื่นๆ ได้ 38,706 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวมเท่ากับ 31,981 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิ 5,877 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิรวม 4,543 ล้านบาท เท่ากับ 29.4% โดยเมื่อ 21 ก.พ. มีมติอนุมัติจ่ายปันผลจากกำไรสะสม เป็นเงินสดในอัตรา 0.65 บาท/หุ้น ปีนี้มีแผนเปิดตัว 58 โครงการใหม่ มูลค่า 77,000 ล้านบาท

ศุภาลัย กวาดรายได้รวมเติบโตแบบก้าวกระโดดสูงถึง 35,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากปี 2564 เกินเป้าหมายที่วางไว้ 29,000 ล้านบาท เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาฯ 34,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2564 แบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการแนวราบ 54% และคอนโดมิเนียม 46% กำไรสุทธิ 8,173 ล้านบาท มากเป็นอันดับสองในอุตสาหกรรมและโตกว่า 16% ส่งผลให้อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 49% การเติบโตของยอดรายได้และกำไรดังกล่าวที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการงวดปี 2565 อัตราหุ้นละ 1.45 บาท จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท คงเหลือจ่ายเงินปันผลสำหรับงวด 6 เดือนหลังของปี 2565 อัตราหุ้นละ 0.75 บาท ปีนี้มีแผนเปิดตัว 37 โครงการใหม่ มูลค่า 41,000 ล้านบาท

พฤกษา ปี 2565 กำไรสุทธิ 2,772 ล้านบาท เติบโต 18% รายได้ 28,640 ล้านบาท ใกล้เคียงปี 2564 รายได้จากวิมุตเติบโตอย่างก้าวกระโดดเพิ่มขึ้น 4.7 เท่า จากปี 2564 โดยปีนี้วางแผนเพิ่มการลงทุนเชิงกลยุทธ์ เพื่อสร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่อง ด้านธุรกิจอสังหาฯ วางแผนเพิ่มสัดส่วนโครงการในเซ็กเมนต์ระดับกลางไปสูง จับกลุ่มลูกค้าพรีเมียมมากขึ้น พร้อมวางแผนเปิดศูนย์สุขภาพแห่งใหม่เพื่อบริการครอบคลุมทุกมุมเมือง ปีนี้มีแผนเปิดตัว 23 โครงการใหม่ มูลค่า 23,500 ล้านบาท

ทางด้าน REIC คาดการณ์ทิศทางที่อยู่อาศัยปี 2566 ว่า อุปทานมีสภาวะทรงตัวถึงชะลอเล็กน้อย เพราะได้ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในปี 2564 แต่ก็เป็นช่วงเวลาของการฟื้นตัวให้แข็งแรง เพื่อที่จะขยายตัวได้ดีในปี 2567





ที่มา:https://www.bangkokbiznews.com/property/1055731

วันที่ 3/3/2023   

คอนโดยอดนิยม BTS สายสุขุมวิท-สายสีลม


คอนโดยอดนิยม MRT


คอนโดใกล้สถานศึกษา