บมจ.วัน ออริจิ้น ผนึกกำลัง ‘ทีแอลทีเอช’ ลุยสร้างมิกซ์ยูส ย่านบางนา เนรมิตรโครงการ “วัน ออริจิ้น สุขุมวิท 68” มิกซ์ยูสโรงแรมระดับพรีเมียม และออฟฟิศสไตล์ Urban Resort พร้อมพื้นที่ค้าปลีก มูลค่ากว่า 1,700 ล้านบาท
นายปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด (มหาชน) หรือ ONEO ผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า “ONEO” บรรลุข้อตกลงร่วมทุน (Joint venture) กับบริษัท ทีแอลทีเอช จำกัด (TLTH Company Limited) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ โตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น เพื่อร่วมพัฒนา “โครงการวัน ออริจิ้น สุขุมวิท 68” (One Origin Sukhumvit 68) โครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบมิกซ์ยูส (Mixed Used) ผสมผสานระหว่างโรงแรม พื้นที่ค้าปลีก และอาคารสำนักงาน มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1,700 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายใต้บริษัท วัน ออริจิ้น สุขุมวิท 68 จำกัด ที่ ONEO ถือหุ้นในสัดส่วน 51% และบริษัท ทีแอลทีเอช จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 49%
นอกจากนี้ ยังได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับแอคคอร์ กรุ๊ป (Accor Group) ผู้บริหารเครือโรงแรมชั้นนำระดับโลก นำแบรนด์โรงแรมระดับพรีเมียม แกรนด์ เมอร์เคียว (Grand Mercure) มาเปิดให้บริการในส่วนของโรงแรมในโครงการวันออริจิ้น สุขุมวิท 68 อีกด้วย
ทั้งนี้ การร่วมทุนดังกล่าวเกิดจากการที่ ONEO และทีแอลทีเอช มีวิสัยทัศน์ร่วมกันที่จะเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และการบริการ ด้วยความมุ่งมั่นและสร้างสรรค์เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า และขับเคลื่อนพอร์ตอสังหาริมทรัพย์ของ ONEO ให้มีความแข็งแกร่ง สร้างรายได้ประจำเติบโตต่อเนื่องอย่างมั่นคง
รวมทั้งได้มองเห็นศักยภาพการเติบโตในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งบางนาถือเป็นทำเลหน้าด่านเชื่อมต่อสู่พื้นที่ EEC ซึ่งที่ผ่านมา ทีแอลทีเอช ได้ร่วมทุนกับ ONEO พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบมิกซ์ยูสมาแล้ว 2 โครงการ ได้แก่ วัน ออริจิ้น สนามเป้า และวัน ออริจิ้น พญาไท
สำหรับโครงการ วัน ออริจิ้น สุขุมวิท 68 เป็นโครงการมิกซ์ยูส ตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 2 ไร่ ติดถนนใหญ่บนถนนสุขุมวิท 68 ซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพ สามารถเข้าออกได้หลายทาง เช่น ถนนสุขุมวิท และบางนา-ตราด รวมถึงอยู่ใกล้กับบีทีเอส สถานีอุดมสุข เพียง 200 เมตร และห่างจากไบเทค บางนา เพียง 750 เมตร ประกอบด้วย
1. โรงแรมระดับพรีเมียม 339 ห้อง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำคัญ อาทิ พื้นที่จัดประชุมขนาดประมาณ 1,000 ตารางเมตร เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดไมซ์ (MICE) หรือธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการจัดประชุม การท่องเที่ยว และการจัดแสดงสินค้าหรือบริการ ทั้งในระดับชาติและนานาชาติ ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง
และ 2. อาคารสำนักงานให้เช่า สไตล์ Urban Resort พื้นที่ประมาณ 6,000 ตารางเมตร และ 3. พื้นที่ค้าปลีกให้เช่า พื้นที่รวมโดยประมาณ 1,000 ตารางเมตร โดยคาดว่าในส่วนของโรงแรมจะเริ่มก่อสร้างไตรมาสที่ 3 ปี 2567 และเปิดดำเนินการภายในไตรมาส 4 ปี 2569
ที่มา:https://www.thansettakij.com/real-estate/582999
ที่ 11/12/2023